เทศกาลสงกรานต์ของไทยเป็นเวลาที่อาหารกลายเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อในเรื่องของความสมดุลและความเจริญรุ่งเรือง หนึ่งในเมนูที่โดดเด่นในช่วงสงกรานต์คือ “ข้าวแช่” ข้าวที่ทำการล้างจนสะอาดและแช่ในน้ำมะลิที่เย็น จากนั้นเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เต็มไปด้วยรสชาติ เช่น ลูกชิ้นปลาหมึกหุ้มไข่ ขนมเนื้อหวาน ข้าวโพดดองและผักดองต่างๆ ข้าวแช่ที่มีความเย็นและละเอียดนั้นเป็นการแสดงถึงการเริ่มต้นปีใหม่ที่เงียบสงบและมีการฟื้นฟูตัวเอง
ในช่วงเช้าของวันสงกรานต์ หลายครอบครัวจะทำบุญโดยการถวายข้าวเหนียว แกงและขนมให้กับพระ เพื่อขอพรให้ชีวิตมีความสุขในปีใหม่ โดยในภาคเหนือครอบครัวบางหลังอาจจัดข้าวโต๊ะที่มีเมนูข้าวซอย แกงฮังเลและน้ำพริก ส่วนในภาคอีสานจะเน้นข้าวเหนียวและลาบไก่ย่าง ส่วนภาคใต้เน้นการใช้เครื่องเทศ เช่น ขมิ้นและพริกไทย โดยมีเมนูอย่างแกงสมและข้าวเหนียว
ขนมในเทศกาลสงกรานต์มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ ขนมที่มีคำว่า “ทอง” เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง จะมีสีทองสื่อถึงความร่ำรวย ขนมชั้นที่มีลักษณะหลายชั้นแสดงถึงการเจริญก้าวหน้าในชีวิต ขนมลูกชุบที่มีรูปร่างเหมือนผลไม้ขนาดเล็กเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความหวังในปีใหม่
การรับประทานอาหารในช่วงสงกรานต์มีการเน้นความสมดุลของรสชาติ โดยมีการรับประทานอาหารในรูปแบบครอบครัวที่มีความหลากหลาย เช่น ส้มตำที่มีรสเปรี้ยวเผ็ด ต้มยำที่มีรสเผ็ดและเปรี้ยว หมูปิ้งที่มีความหอมและกรอบ รวมถึงข้าวเหนียวที่มีความเหนียวนุ่ม เพื่อความสมดุลของร่างกายในช่วงเทศกาล
เครื่องดื่มที่ใช้ในช่วงสงกรานต์ เช่น น้ำมะลิ น้ำสมุนไพร และชาเย็น จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อนในช่วงเดือนเมษายน ขณะที่ผลไม้ที่มีในเทศกาล เช่น มะม่วง สับปะรด และแตงโม เป็นการเน้นความสดชื่นและความอุดมสมบูรณ์
อาหารในเทศกาลสงกรานต์เป็นเครื่องมือในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน ผ่านการถวายอาหารให้บรรพบุรุษและการแบ่งปันอาหารให้เพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมความโชคดีและความสำเร็จในปีใหม่
